นโยบายความเป็นส่วนตัว
                
                
                    นโยบายความเป็นส่วนตัว สำหรับพนักงานบริษัท พนักงานตามสัญญาจ้างเหมาแรงงาน ผู้สมัครเข้าเป็นพนักงานบริษัท
                        และนักศึกษาฝึกงาน
                        นโยบายความเป็นส่วนตัว สำหรับผู้เข้าเยี่ยมชมกิจการ ผู้มาติดต่อ คู่ค้าและผู้แทน ผู้เข้าร่วมกิจกรรม
                
                
                    
นโยบายความเป็นส่วนตัว
                        สำหรับพนักงานบริษัท พนักงานตามสัญญาจ้างเหมาแรงงาน ผู้สมัครเข้าเป็นพนักงานบริษัท และนักศึกษาฝึกงาน
                
                
                    บริษัท ไดกิ้น อินดัสทรีส์ (ประเทศไทย) จำกัด (ต่อไปนี้เรียกว่า “บริษัท”)
                        เคารพสิทธิความเป็นส่วนตัวของพนักงานของบริษัท พนักงานตามสัญญาจ้างเหมาแรงงาน
                        ผู้สมัครเข้าเป็นพนักงานของบริษัท และนักศึกษาฝึกงาน (ต่อไปนี้เรียกว่า “ท่าน”)
                        และเพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าท่านได้รับความคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
                        บริษัทจึงได้จัดทำนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ขึ้นเพื่อแจ้งให้ท่านทราบถึงรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับการเก็บรวบรวม
                        การใช้ และการเปิดเผย และ/หรือ การโอนไปยังต่างประเทศซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน (รวมเรียกว่า
                        “การประมวลผล”) โดยบริษัทจะปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ดังนี้
                
                
                    1. วัตถุประสงค์การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
                
                
                    1.1 เพื่อใช้ดำเนินการก่อนการทำสัญญาจ้างแรงงาน
                        หรือเพื่อให้บรรลุข้อตกลงหรือที่เกี่ยวข้องกับการทำสัญญาจ้างแรงงานที่เกี่ยวข้องกับท่าน
                        รวมทั้งที่เกี่ยวข้องกับสัญญาจ้างเหมาแรงงานที่บริษัทได้ทำไว้กับบุคคลอื่น
                        หรือเพื่อการยืนยันตัวตนหรือคุณสมบัติในการสมัครเข้าเป็นพนักงานบริษัท
                        การเข้ามาทำงานหรือเข้ารับการฝึกงานของนักเรียนหรือนักศึกษา
                        1.2 เพื่อประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลภายใต้ขอบเขตที่อาจคาดหมายได้ตามสัญญาจ้างแรงงาน สัญญาจ้างเหมาแรงงาน
                        การสมัครเข้าเป็นพนักงานหรือการฝึกงาน
                        ซึ่งอาจคาดหมายได้ถึงความจำเป็นของบริษัทอย่างสมเหตุสมผลในการกระทำตามวัตถุประสงค์ของการดังกล่าว เช่น
                        เพื่อการบริหารด้านทรัพยากรบุคคล การปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับของบริษัท การจัดการด้านสวัสดิการ
                        สิทธิประโยชน์หรือค่าตอบแทนของพนักงานหรือผู้มีส่วนได้เสีย การแต่งตั้งโยกย้าย การโอนพนักงาน
                        การแบ่งปันข้อมูลให้กับบริษัทในเครือหรือกลุ่มกิจการ เพื่อการบริหารจัดการภายในของบริษัท การพัฒนาบุคลากร
                        การพิจารณาคุณสมบัติของบุคคลหรือผู้สมัครจากการทำแบบสอบถาม เป็นต้น
                        1.3 เพื่อให้บริษัทสามารถปฏิบัติได้ตามบทบัญญัติของกฎหมาย กฎระเบียบ และคำสั่งของผู้ที่มีอำนาจทางกฎหมาย
                        เช่น การคุ้มครองแรงงาน แรงงานสัมพันธ์ ประกันสังคม กองทุนเงินทดแทน กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
                        ความปลอดภัยและอาชีวอนามัย หรือกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งระเบียบ
                        หรือคำสั่งโดยชอบด้วยกฎหมายของรัฐหรือตัวแทนที่มีอำนาจ
                        1.4 เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทหรือของบุคคลอื่น เช่น -
                        เพื่อจัดการพัฒนาการบริหารกิจการของบริษัท- เพื่อประโยชน์ด้านความปลอดภัย เช่น
                        จัดให้มีมาตรการรักษาความปลอดภัยในทรัพย์สิน ซึ่งรวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
                        โดยการควบคุมการเข้าถึงข้อมูลของบริษัท พื้นที่ควบคุม
                        การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตและสื่อสารสนเทศน์ที่จัดให้โดยบริษัท
                        รวมทั้งการป้องกันอาชญากรรมหรือการกระทำที่เป็นความผิด
                        หรือพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมขัดต่อศีลธรรมอันดีของประชาชน - เพื่อแจ้งข่าวสาร ผ่านทางอีเมล เอสเอ็มเอส
                        แอปพลิเคชัน Social media โทรศัพท์- เพื่อการใช้สิทธิเรียกร้องทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับบริษัท
                        และ/หรือที่เกี่ยวข้องกับท่าน - เพื่อให้บริษัทสามารถวิเคราะห์ข้อมูล
                        และพัฒนาปรับปรุงการบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ
                        1.5 เพื่อป้องกันและระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของท่านหรือบุคคลอื่นเช่น
                        การติดต่อในกรณีฉุกเฉิน การควบคุมและป้องกันโรคติดต่อ
                        1.6 เพื่อการปฏิบัติหน้าที่ในการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะของบริษัท
                        หรือปฏิบัติหน้าที่ในการใช้อำนาจรัฐที่ได้มอบให้
                        1.7 กรณีที่ท่านให้ความยินยอมบริษัทจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล - เพื่อให้บริษัทสามารถติดต่อสื่อสารกับท่าน
                        เพื่อการแจ้งข่าวสารและสิทธิประโยชน์ ผ่านทาง อีเมล เอสเอ็มเอส แอปพลิเคชัน โซเชียลมีเดีย โทรศัพท์
                        รวมถึงเพื่อประโยชน์ในการทำแบบประเมิน (Survey)
                        ที่บริษัทได้จัดทำขึ้นหากภายหลังมีการเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์
                        บริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบถึงวัตถุประสงค์ใหม่ที่เปลี่ยนแปลง
                        และขอความยินยอมในกรณีที่จำเป็นต้องได้รับความยินยอมจากท่านใหม่เป็นคราวๆ ไปทั้งนี้
                        ท่านสามารถศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับความยินยอมได้ในข้อ 4
                
                
                    2. ข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวม
                
                
                    2.1 เมื่อท่านเป็นพนักงานของบริษัท หรือพนักงานตามสัญญาจ้างเหมาแรงงาน บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
                        ดังนี้
                        - ข้อมูลการติดต่อ เช่น อีเมล หมายเลขโทรศัพท์ ที่อยู่ ช่องทางติดต่อในโซเชียลมีเดีย
                        - ข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ-นามสกุล รูปถ่าย ข้อมูลที่ปรากฏตามบัตรประชาชน หนังสือเดินทาง สำเนาทะเบียนบ้าน
                        เอกสารที่ออกให้โดยส่วนราชการ หรือข้อมูลอื่นในทำนองเดียวกัน
                        - ข้อมูลด้านการศึกษา เช่น ภาพถ่าย หรือหลักฐานที่ใช้แสดงวุฒิการศึกษาหรือคุณสมบัติ เช่น
                        หนังสือรับรองผลหรือประวัติการศึกษา การฝึกอบรม ผลการทดสอบที่ใช้แสดงระดับความสามารถ เอกสารรับรองทางวิชาชีพ
                        หลักฐานทางทหาร
                        - ประวัติการทำงาน เช่น อาชีพ ตำแหน่ง ประสบการณ์การทำงานในอดีต เงินเดือนและสวัสดิการที่ได้รับ
                        - ข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรม เช่น ทัศนคติ พฤติกรรม ความฉลาดทางอารมณ์ ความคิดเห็นจากการตอบ แบบสอบถาม
                        ภาวะความเป็นผู้นำ
                        - ข้อมูลทางการเงิน เช่น เลขบัญชี สำเนาสมุดบัญชีธนาคาร เงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ หนังสือยินยอมให้หักบัญชี
                        หลักฐานการกู้ยืมเงิน
                        - ข้อมูลอื่นๆ เช่น ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับสวัสดิการ สิทธิประโยชน์
                        (ที่ท่านจะได้รับตามระเบียบของบริษัทหรือที่กำหนดไว้โดยกฎหมาย) บันทึกเวลาและระยะเวลาการทำงาน
                        การทำงานล่วงเวลา การลา การขาดงาน แบบประเมินการทำงาน
                        รวมทั้งข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางทั้งในและต่างประเทศตามที่ได้รับมอบหมายจากบริษัท
                        2.2 เมื่อท่านเป็นผู้สมัครเข้ามาเป็นพนักงานของบริษัท บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล ดังนี้
                        - ข้อมูลการติดต่อ เช่น อีเมล หมายเลขโทรศัพท์ ที่อยู่ ช่องทางติดต่อในโซเชียลมีเดีย สถานที่ทำงาน
                        - ข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ-นามสกุล รูปถ่าย ข้อมูลที่ปรากฏตามบัตรประชาชน หนังสือเดินทาง สำเนาทะเบียนบ้าน
                        เอกสารที่ออกให้โดยส่วนราชการ หรือข้อมูลอื่นในทำนองเดียวกัน
                        - ข้อมูลด้านการศึกษา เช่น ภาพถ่าย หรือหลักฐานที่ใช้แสดงวุฒิการศึกษาหรือคุณสมบัติ เช่น
                        หนังสือรับรองผลหรือประวัติการศึกษา การฝึกอบรม ผลการทดสอบที่ใช้แสดงระดับความสามารถ เอกสารรับรองทางวิชาชีพ
                        หลักฐานทางทหาร
                        - ประวัติการทำงาน เช่น อาชีพ ตำแหน่ง ประสบการณ์การทำงานในอดีต เงินเดือนและสวัสดิการที่ได้รับ
                        - ข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรม เช่น ทัศนคติ พฤติกรรม ความฉลาดทางอารมณ์ ความคิดเห็นจากการตอบแบบสอบถาม
                        ภาวะความเป็นผู้นำ
                        2.3 เมื่อท่านเป็นผู้รับการฝึกงานหรือรับการฝึกอบรมในบริษัท บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล ดังนี้
                        - ข้อมูลการติดต่อ เช่น อีเมล หมายเลขโทรศัพท์ ที่อยู่ ช่องทางติดต่อในโซเชียลมีเดีย
                        - ข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ-นามสกุล รูปถ่าย ข้อมูลที่ปรากฏตามบัตรประชาชน หนังสือเดินทาง สำเนาทะเบียนบ้าน
                        เอกสารที่ออกให้โดยส่วนราชการ หรือข้อมูลอื่นในทำนองเดียวกัน
                        - ข้อมูลด้านการศึกษา เช่น ภาพถ่าย หรือหลักฐานที่ใช้แสดงวุฒิการศึกษาหรือคุณสมบัติ เช่น
                        หนังสือรับสถานะประวัติการศึกษา การฝึกอบรม ผลการทดสอบที่ใช้แสดงระดับความสามารถ
                        2.4
                        บริษัทอาจมีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลชนิดพิเศษของท่านตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
                        เพื่อใช้งานตามวัตถุประสงค์ที่แจ้งไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ เช่น
                        - เมื่อมีความจำเป็นต้องใช้ข้อมูลดังกล่าวเพื่อประโยชน์ในการรักษาความปลอดภัยของบริษัท เช่น ข้อมูลชีวภาพ
                        (facial recognition ลายนิ้วมือ) เพื่อใช้ในการระบุตัวตนในการเข้าถึงระบบ อุปกรณ์ หรือพื้นที่ควบคุม
                        - ข้อมูลส่วนตัวที่มีความอ่อนไหวตามที่ปรากฏในเอกสารระบุตัวตน (เช่น ศาสนา เชื้อชาติ)
                        เพื่อวัตถุประสงค์ในการพิสูจน์และยืนยันตัวตนของท่านเท่านั้น
                        โดยบริษัทไม่มีวัตถุประสงค์และนโยบายในการเก็บรวบรวม ใช้
                        หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวดังกล่าวนอกเหนือจากวัตถุประสงค์ในการพิสูจน์และยืนยันตัวตนของท่าน
                        - ข้อมูลสุขภาพ เช่น ข้อมูลตรวจสุขภาพประจำปี หรือที่กฎหมายกำหนดเพื่อความปลอดภัยในการทำงาน
                        ผลการตรวจหาเชื้อในโรคติดต่อร้ายแรงหรือสารเสพติด การขอใบรับรองแพทย์ตามความจำเป็นของพนักงาน
                        หรือบุคคลในครอบครัวเพื่อการบริหารจัดการที่เกี่ยวกับสวัสดิการ ข้อมูลการแพ้อาหาร และอื่นๆในทำนองเดียวกัน
                        - ข้อมูลความเป็นสมาชิกสหภาพแรงงาน เพื่อการใช้งานตามข้อตกลง หรือการปฏิบัติตามข้อเรียกร้องของสหภาพแรงงาน
                        - ข้อมูลเกี่ยวกับประวัติอาชญากรรม หรือการกระทำความผิดทางอาญา
                        หรือความเกี่ยวพันธ์กับการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพในการทำลายล้างสูงตามกฎหมาย ทั้งนี้
                        เพื่อใช้ในการพิจารณาความเหมาะสมในการปฏิบัติงานภายใต้ระเบียบของบริษัท
                        และข้อมูลการประเมินความเสี่ยงของบุคลากรก่อนรับเข้าทำงาน
                        2.5 บริษัทจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลชนิดพิเศษของท่านโดยได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่านในกรณีที่จำเป็น
                        หรือเพื่อวัตถุประสงค์อื่นตามที่กฎหมายกำหนดไว้เท่านั้น
                        2.6 ในกรณีที่ท่านให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่สามแก่บริษัท เช่น ชื่อ นามสกุล รายละเอียดที่อยู่
                        และหมายเลขโทรศัพท์สำหรับการติดต่อฉุกเฉิน การยืนยันตัวตน หรือการจัดการด้านสวัสดิการของบริษัท
                        โปรดแจ้งนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ให้แก่บุคคลที่สามดังกล่าวเพื่อให้รับทราบนโยบายฯ และขอความยินยอมหากจำเป็น
                        2.7 บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับผู้เยาว์ที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ
                        เมื่อได้รับความยินยอมจากผู้ใช้อำนาจปกครองแล้วเท่านั้น
                        เว้นแต่กรณีที่ผู้เยาว์นั้นอาจให้ความยินยอมได้โดยลำพังตามกฎหมาย ในกรณีที่ท่านมีอายุไม่ครบ 20 ปีบริบูรณ์
                        ขอให้ท่านโปรดแจ้งรายละเอียดของผู้ใช้อำนาจปกครองให้บริษัททราบเพื่อให้บริษัทสามารถดำเนินการขอความยินยอมจากผู้ใช้อำนาจปกครองก่อนการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
                        ในกรณีที่บริษัททราบว่าได้มีการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากบุคคลที่อายุต่ำกว่า 20
                        ปีโดยไม่มีความยินยอมจากผู้ปกครองตามที่กฎหมายกำหนด บริษัทจะทำการลบข้อมูลส่วนบุคคลนั้นทันที
                        หรือจะเก็บรวบรวม ใช้
                        และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเฉพาะกรณีที่มีฐานทางกฎหมายอื่นที่นอกเหนือจากความยินยอม
                        หรือตามที่กฎหมายอนุญาตไว้
                    
                
                
                    3. การเชื่อมต่อเว็บไซต์หรือบริการภายนอก
                
                
                    ว็บไซต์ของบริษัทอาจมีการเชื่อมต่อไปยังเว็บไซต์หรือบริการของบุคคลที่สาม
                        ซึ่งเว็บไซต์หรือบริการดังกล่าวอาจมีการประกาศนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่มีเนื้อหาสาระแตกต่างจากนโยบายนี้
                        บริษัทขอแนะนำให้ท่านศึกษานโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเว็บไซต์หรือบริการนั้นๆ
                        เพื่อทราบในรายละเอียดก่อนการเข้าใช้งาน ทั้งนี้
                        บริษัทไม่มีความเกี่ยวข้องและไม่มีอำนาจควบคุมถึงมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเว็บไซต์หรือบริการดังกล่าว
                        และไม่สามารถรับผิดชอบต่อเนื้อหา นโยบาย ความเสียหาย
                        หรือการกระทำอันเกิดจากเว็บไซต์หรือบริการของบุคคลที่สาม
                    
                
                
                    4. การขอความยินยอมและผลกระทบที่เป็นไปได้จากการถอนความยินยอม
                
                
                    4.1 ท่านมีอิสระอย่างเต็มที่ในการให้ความยินยอมโดยไม่สำคัญผิดในวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม การใช้
                        หรือการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยบริษัท
                        4.2 ท่านอาจจะเพิกถอนความยินยอมนั้นเสียในเวลาใดก็ได้ แต่การเพิกถอนเช่นว่านั้นจะไม่กระทบต่อการเก็บรวบรวม
                        การใช้ หรือการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมแก่บริษัทไปแล้วก่อนหน้า
                        4.3 การเพิกถอนความยินยอมของท่านอาจส่งผลให้บริษัทไม่สามารถดำเนินการตามวัตถุประสงค์บางส่วนหรือทั้งหมดได้
                        และท่านอาจได้รับกระทบจากการที่บริษัทไม่สามารถดำเนินการได้ตามวัตถุประสงค์
                        ซึ่งบริษัทจะแจ้งผลกระทบให้ท่านได้ทราบก่อนหรือในขณะเพิกถอนความยินยอม
                    
                
                
                    5. ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
                
                
                    5.1
                        บริษัทจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามประเภทข้อมูลส่วนบุคคลแต่ละประเภท
                        เว้นแต่กฎหมายจะอนุญาตให้มีระยะเวลาการเก็บรักษาที่นานขึ้น
                        ในกรณีที่ไม่สามารถระบุระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลได้ชัดเจน
                        เราจะเก็บรักษาข้อมูลไว้ตามมาตรฐานการควบคุมความปลอดภัยของข้อมูล หรือตามอายุความของกฎหมาย
                        5.2 ข้อมูลส่วนบุคคลที่จัดเก็บโดยโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV)
                        บริษัทจะเก็บรักษาไว้ตามระยะเวลาของความจุของอุปกรณ์และระบบที่มีการติดตั้ง
                        ซึ่งอาจมีคุณสมบัติในการจัดเก็บข้อมูลที่ไม่เท่ากัน แต่จะเก็บไว้ไม่น้อยกว่า 30 วัน นับแต่วันที่จัดเก็บ
                        5.3 กรณีที่มีการเพิกถอนความยินยอมในการเก็บรวบรวม การใช้ การเปิดเผยข้อมูล
                        ก่อนเวลาที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์
                        บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลไว้ตามกำหนดเวลาที่มีการเพิกถอนความยินยอม อย่างไรก็ตาม ในกรณีนี้
                        บริษัทจะทำการบันทึกประวัติการเพิกถอนความยินยอมของท่านไว้เท่าที่จำเป็นเพื่อการอ้างอิง
                        หรือเพื่อปฏิบัติต่อคำขอของท่านในอนาคต
                    
                
                
                    6. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้บุคคลอื่น
                
                
                    บริษัทจำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลที่สาม ไม่ว่าจะมีสภาพเป็นนิติบุคคล
                        หรือบุคคลธรรมดา ภายใต้ขอบเขตที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์
                        หรือการให้บริการอันเกี่ยวกับการบริหารจัดการกิจการของบริษัทเท่านั้น โดยบริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลแก่
                        6.1 บริษัทในเครือหรือกลุ่มกิจการ เพื่อดำเนินการตามวัตถุประสงค์ในการบริหารงานและกิจการของบริษัท
                        และวัตถุประสงค์ภายใต้นิติสัมพันธ์ของท่านกับบริษัท
                        โดยบริษัทจะดำเนินการประมวลผลภายใต้กรอบของข้อตกลงร่วมกัน
                        6.2 ผู้ให้บริการ ซึ่งอาจมีสถานะเป็นนิติบุคคล หรือบุคคลธรรมดา เพื่อการเก็บรวบรวม
                        หรือประมวลผลข้อมูลตามคำสั่งของบริษัท ภายใต้กรอบวัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลที่ได้กำหนดไว้ เช่น
                        ผู้ให้บริการเก็บรักษาข้อมูลคอมพิวเตอร์ (Content Service Provider) ผู้ให้บริการระบบคลาวด์ (Cloud Service
                        Provider) ผู้ให้บริการด้านวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analytics) เป็นต้น
                        โดยผู้ให้บริการจะดำเนินการประมวลผลข้อมูลภายใต้ข้อตกลงร่วมกันเพื่อการประมวลผลข้อมูล (Data Sharing / Data
                        Processing Agreement) เท่านั้น โดยจะต้องมีการจัดมาตรการรักษาความปลอดภัยข้อมูลในระดับที่เพียงพอและเหมาะสม
                        6.3 หน่วยงาน หรือบุคคลอื่นใด ที่เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด เช่น ธนาคารแห่งประเทศไทย
                        สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน บริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ สถานีตำรวจ ศาล กรมบังคับคดี
                        บริษัทบริหารสินทรัพย์ และหน่วยงานอื่นๆที่บริษัทมีหน้าที่ต้องนำส่งข้อมูลตามกฎหมาย
                    
                
                
                    7. การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปต่างประเทศ
                
                
                    7.1
                        บริษัทอาจจะต้องโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านออกนอกประเทศไทยไปยังประเทศซึ่งอาจมีมาตรฐานด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่สูงกว่าหรือต่ำกว่าประเทศไทย
                        เช่น การโอนข้อมูลไปยังบริษัทในเครือหรือกลุ่มกิจการที่อยู่ในต่างประเทศ
                        เพื่อดำเนินการตามวัตถุประสงค์ในการบริหารงานและกิจการของบริษัท
                        และวัตถุประสงค์ภายใต้ความสัมพันธ์ของท่านกับบริษัท
                        7.2
                        เมื่อมีความจำเป็นต้องโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปต่างประเทศที่มีมาตรฐานความคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ต่ำกว่าประเทศไทย
                        บริษัทจะดำเนินการให้แน่ใจว่ามีการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลให้อยู่ในระดับที่เพียงพอ
                        หรือดำเนินการให้แน่ใจว่ากฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องอนุญาตให้โอนข้อมูลส่วนบุคคลได้
                    
                
                
                    8. มาตรการความปลอดภัยสำหรับข้อมูลส่วนบุคคล
                
                
                    8.1 บริษัทให้ความสำคัญกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเป็นลำดับต้นๆ
                        โดยข้อมูลของท่านจะถูกจัดเก็บภายใต้มาตรการควบคุมความปลอดภัยของข้อมูลที่มีมาตรฐาน ไม่ว่าในรูปแบบของเอกสาร
                        ระบบคอมพิวเตอร์ และระบบอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ รวมถึงเครื่องมือต่างๆ
                        ที่บริษัทใช้เพื่อรักษาความปลอดภัยในข้อมูลส่วนบุคคล
                        รวมทั้งได้จัดให้มีหน่วยงานผู้รับผิดชอบในการบริหารจัดการและการตรวจประเมิน
                        ถึงวิธีการเก็บและสถานที่เก็บรักษา การจำกัดสิทธิการเข้าถึงข้อมูล การเข้ารหัสข้อมูล การแสดงผลข้อมูล
                        การโอนและการทำลายข้อมูล เพื่อให้เกิดความมั่นใจในมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท
                        8.2 บริษัทดำเนินการจัดให้มีโครงสร้างการกำกับดูแลข้อมูลส่วนบุคคล และการควบคุมภายในที่เกี่ยวข้อง
                        รวมถึงนโยบายการบริหารจัดการเหตุการณ์ผิดปกติที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคล
                        และแนวทางการตอบสนองต่อเหตุการณ์ผิดปกติ
                        เพื่อให้สามารถจัดการกับเหตุการณ์ผิดปกติที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลได้อย่างทันท่วงที
                        8.3 บริษัทจะดำเนินการด้วยความระมัดระวังและรัดกุม
                        เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะไม่ถูกเข้าถึงโดยบุคคลที่ไม่มีสิทธิ หรือมีการแก้ไข
                        เปลี่ยนแปลง ทำให้เสียหายหรือทำลายข้อมูลโดยบุคคลอื่น
                        8.4 บริษัทได้จัดให้มีการตรวจสอบมาตรการควบคุมความปลอดภัยของข้อมูล
                        และการประเมินความสอดคล้องกับการปฏิบัติตามกฎหมายอย่างสม่ำเสมอ
                        และจะปรับปรุงมาตรการต่างๆให้ทันสมัยพร้อมรับกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงและสามารถปรับใช้ได้อย่างเหมาะสม
                    
                
                
                    9. สิทธิเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
                
                
                    ท่านมีสิทธิดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใด หรือทุกประการ
                        เพื่อการใช้สิทธิตามกฎหมายในส่วนเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งได้ให้ไว้แก่บริษัท
                        โดยบริษัทจะดำเนินการตามคำขอของท่านภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับคำขอ ดังนี้
                        9.1 สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิเข้าถึงหรือขอสำเนาของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
                        9.2 สิทธิในการขอให้บริษัทเปิดเผยซึ่งการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
                        9.3 สิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับท่าน
                        9.4 สิทธิในการขอให้ลบ หรือระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
                        9.5 สิทธิในการเพิกถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมไว้ ทั้งนี้
                        การเพิกถอนความยินยอมย่อมไม่ส่งผลกระทบต่อการเก็บรวบรวม ใช้
                        หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้ให้ความยินยอมไว้แล้ว
                        9.6 สิทธิในการขอแก้ไข หรือปรับปรุงข้อมูลของท่านให้ถูกต้องสมบูรณ์ เป็นปัจจุบัน
                        และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
                        9.7 สิทธิในการขอให้โอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบุคคลอื่น
                        หากการดังกล่าวสามารถทำได้โดยระบบอัตโนมัติทั้งนี้ คำร้องขอใช้สิทธิใดๆ
                        ข้างต้นอาจถูกจำกัดโดยกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
                        อาจมีบางกรณีที่บริษัทสามารถปฏิเสธคำขอของท่านได้โดยสมควรและโดยชอบ เช่น กรณีบริษัทต้องปฏิบัติตามกฎหมาย
                        หรือเพื่อรักษาประโยชน์อันชอบธรรมของบริษัท
                    
                
                
                    10. ช่องทางสื่อสารและข้อมูลของบริษัท
                
                
                    ท่านสามารถขอดำเนินการตามสิทธิภายใต้กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลได้
                        โดยยื่นคำร้องเป็นหนังสือต่อคณะกรรมการความปลอดภัยของข้อมูล
                        หรือเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท ได้ตามที่อยู่ด้านล่าง หรือ แนบสำเนาคำร้องส่งอีเมลมายัง
                        info@dit.daikin.co.jp หรือโทรศัพท์สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่หมายเลข 038-469-700
                        สถานที่ติดต่อ : บริษัท ไดกิ้น อินดัสทรีส์ (ประเทศไทย) จำกัด
                        ที่อยู่ : สำนักงานใหญ่เลขที่ 700/11 นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ชลบุรี ตำบลคลองตำหรุ อำเภอเมืองชลบุรี
                        จังหวัดชลบุรี 20000
                    
                
                
                    11. การแก้ไขประกาศความเป็นส่วนตัว
                
                
                    บริษัทอาจมีการแก้ไขประกาศความเป็นส่วนตัวนี้ตามความเหมาะสม
                        และประกาศฉบับใหม่จะมีผลทันทีนับแต่วันที่ได้ประกาศอย่างเป็นทางการผ่านทางเว็บไซต์ www.daikinthai.com
                        หรือนับแต่ที่ได้แจ้งให้ท่านทราบอย่างเหมาะสมโดยวิธีการอื่นใด
                        ซึ่งบริษัทขอให้ท่านได้ตรวจสอบการประกาศของทางบริษัทเป็นครั้งคราวเพื่อประโยชน์ของท่าน
                        และการปกป้องสิทธิความเป็นส่วนตัวตามกฎหมาย
                    
                
                
                    
นโยบายความเป็นส่วนตัว
                        สำหรับผู้เข้าเยี่ยมชมกิจการ ผู้มาติดต่อ คู่ค้าและผู้แทน ผู้เข้าร่วมกิจกรรม
                    
                
                
                    บริษัท ไดกิ้น อินดัสทรีส์ (ประเทศไทย) จำกัด (ต่อไปนี้เรียกว่า “บริษัท”)
                        เคารพสิทธิความเป็นส่วนตัวของพนักงานของบริษัท พนักงานตามสัญญาจ้างเหมาแรงงาน
                        ผู้สมัครเข้าเป็นพนักงานของบริษัท และนักศึกษาฝึกงาน (ต่อไปนี้เรียกว่า “ท่าน”)
                        และเพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าท่านได้รับความคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
                        บริษัทจึงได้จัดทำนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ขึ้นเพื่อแจ้งให้ท่านทราบถึงรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับการเก็บรวบรวม
                        การใช้ และการเปิดเผย และ/หรือ การโอนไปยังต่างประเทศซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน (รวมเรียกว่า
                        “การประมวลผล”) โดยบริษัทจะปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ดังนี้
                    
                
                
                    1. วัตถุประสงค์การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
                
                
                    1.1 เพื่อใช้ดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนการเข้าทำสัญญา หรือความสัมพันธ์ระหว่างท่านกับริษัท เช่น
                        การจัดทำบันทึกผู้เข้าเยี่ยมชมกิจการ หรือบุคคลภายนอกที่เข้ามาติดต่อภายในบริษัท การจัดทำสัญญาบริการ
                        เป็นต้น
                        1.2 เพื่อประโยชน์โดยชอบธรรมของบริษัท หรือบุคคลอื่น ที่อาจคาดหมายได้ถึงความจำเป็นของบริษัทอย่างสมเหตุผล
                        เช่น เพื่อการแบ่งปันข้อมูลให้กับบริษัทในเครือหรือกลุ่มกิจการ หรือเพื่อการบริหารจัดการภายในของบริษัท
                        เพื่อควบคุมการเข้ามาในบริเวณหรือสถานที่ของบริษัทไม่ว่าจะเป็นอาคาร สำนักงาน โรงงาน คลังสินค้า
                        ศูนย์ฝึกอบรม ศูนย์การออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ สำนักงานสาขา เพื่อให้บริษัทสามารถวิเคราะห์ข้อมูล
                        และพัฒนาปรับปรุงการบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อประโยชน์ด้านการรักษาความปลอดภัยในทรัพย์สิน
                        รวมทั้งควบคุมการเข้าถึงข้อมูลของบริษัท การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตและสื่อสารสนเทศน์ที่จัดให้โดยบริษัท
                        รวมทั้งการป้องกันอาชญากรรมหรือการกระทำที่เป็นความผิด
                        หรือพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมขัดต่อศีลธรรมอันดีของประชาชน เป็นต้น
                        1.3 เพื่อให้บริษัทสามารถปฏิบัติได้ตามบทบัญญัติของกฎหมาย กฎระเบียบ หรือคำสั่งโดยชอบด้วยกฎหมายของรัฐ
                        หรือตัวแทนที่มีอำนาจ รวมทั้งการป้องกันอาชญากรรม หรือการกระทำที่กฎหมายบัญญัติเป็นความผิด
                        หรือพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมขัดต่อศีลธรรมอันดีของประชาชน
                        รวมทั้งเพื่อประโยชน์สาธารณะหรือเป็นพยานหลักฐานตามขั้นตอนดำเนินงานของหน่วยงานรัฐ การควบคุมโรค
                        และการติดต่อในกรณีฉุกเฉิน
                        1.4 เพื่อป้องกันและระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของท่านหรือบุคคลอื่นเช่น
                        การติดต่อในกรณีฉุกเฉิน การควบคุมและป้องกันโรคติดต่อ
                        1.5 เพื่อการปฏิบัติหน้าที่ในการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะของบริษัท
                        หรือปฏิบัติหน้าที่ในการใช้อำนาจรัฐที่ได้มอบให้
                        1.6 กรณีที่ท่านให้ความยินยอมบริษัทจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
                        - เพื่อให้บริษัทสามารถติดต่อสื่อสารกับท่าน เพื่อการแจ้งข่าวสารและสิทธิประโยชน์ ผ่านทาง อีเมล เอสเอ็มเอส
                        แอปพลิเคชัน โซเชียลมีเดีย โทรศัพท์ รวมถึงเพื่อประโยชน์ในการทำแบบประเมิน (Survey)
                        ที่บริษัทได้จัดทำขึ้นหากภายหลังมีการเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์
                        บริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบถึงวัตถุประสงค์ใหม่ที่เปลี่ยนแปลง
                        และขอความยินยอมในกรณีที่จำเป็นต้องได้รับความยินยอมจากท่านใหม่เป็นคราวๆ ไปทั้งนี้
                        ท่านสามารถศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับความยินยอมได้ในข้อ 4
                    
                
                
                    2. ข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวม
                
                
                    2.1 เมื่อท่านเข้ามาเยี่ยมชมกิจการของบริษัท บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล ดังนี้
                        - ข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ-นามสกุล รูปถ่าย ข้อมูลที่ปรากฏตามบัตรประชาชน หนังสือเดินทาง
                        เอกสารที่ออกให้โดยส่วนราชการ หรือข้อมูลอื่นในทำนองเดียวกันเพื่อการยืนยันตัวตน
                        - ข้อมูลหมายเลขทะเบียนยานพาหนะ เมื่อท่านเข้ามาในบริเวณพื้นที่ของบริษัทโดยยานพาหนะ
                        - ข้อมูลหมายเลขโทรศัพท์ อีเมลล์ นามบัตร เพื่อการติดต่อสื่อสารกับท่าน หรือ การเก็บข้อมูลอื่นๆ
                        เพื่อความจำเป็น เช่น เมื่อมีการลงทะเบียนขอเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต
                        หรือการเข้าถึงสื่อสารสนเทศน์ที่บริษัทเป็นผู้ให้บริการ
                        - ข้อมูลภาพจากการบันทึกโดยกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) ที่บริษัทติดตั้งไว้ในบริเวณพื้นที่หรืออาคารต่างๆ
                        - ข้อมูลบ่งชี้ตำแหน่งที่ตั้ง (Location) เพื่อการติดต่อสื่อสารหรือการแนะนำเส้นทางไปยังสถานที่ที่กำหนด
                        - ข้อมูลอื่นๆ เท่าที่จำเป็นเพื่อการบริหารจัดการของบริษัท
                        2.2 เมื่อท่านหรือตัวแทนของท่านเข้ามาติดต่อ หรือเข้ามาในบริษัทเพื่อการให้บริการตามสัญญา
                        หรือในฐานะคู่ค้าของบริษัทเพื่อการเจรจาหรือการหารือทางการค้า การเข้าทำสัญญา การซื้อขายหรือส่งมอบสินค้า
                        หรือดำเนินอย่างหนึ่งอย่างใดเพื่อให้ลุล่วงไปในทางการค้าและธุรกิจกับบริษัทไม่ว่าด้วยตัวเองหรือโดยตัวแทน
                        บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล ดังนี้
                        - ข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ-นามสกุล รูปถ่าย ข้อมูลที่ปรากฏตามบัตรประชาชน หนังสือเดินทาง สำเนาทะเบียนบ้าน
                        เอกสารที่ออกให้โดยส่วนราชการ หรือข้อมูลอื่นในทำนองเดียวกัน
                        - ข้อมูลหมายเลขทะเบียนยานพาหนะ เมื่อท่านเข้ามาในในบริเวณพื้นที่ของบริษัทโดยยานพาหนะ
                        - ข้อมูลหมายเลขโทรศัพท์ อีเมลล์ นามบัตร เพื่อการติดต่อสื่อสารกับท่าน หรือ การเก็บข้อมูลอื่นๆ
                        เพื่อความจำเป็น เช่น เมื่อมีการลงทะเบียนขอเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต
                        หรือการเข้าถึงสื่อสารสนเทศน์ที่บริษัทเป็นผู้ให้บริการ
                        - ข้อมูลทางการเงิน เช่น เลขบัญชี สำเนาสมุดบัญชีธนาคาร หรือ ข้อมูลอื่นๆ
                        เพื่อใช้ในการรับชำระค่าสินค้าและบริการ
                        - ข้อมูลภาพจากการบันทึกโดยกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) ที่บริษัทติดตั้งไว้ในบริเวณพื้นที่หรืออาคารต่างๆ
                        2.3 เมื่อท่านเข้าร่วมกิจกรรมที่บริษัทกำหนดให้มีขึ้น บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล ดังนี้
                        - ข้อมูลสำหรับการลงทะเบียน เช่น ชื่อ-นามสกุล หมายเลขโทรศัพท์ อีเมลล์
                        - ภาพนิ่ง หรือภาพเคลื่อนไหว ที่จัดเก็บผ่านอุปกรณ์บันทึกภาพของบริษัท
                        2.4 เมื่อท่านเข้าชมเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล ดังนี้
                        ข้อมูลเกี่ยวกับการสมัครสมาชิก (Registration) เช่น ชื่อ นามสกุล อีเมล เบอร์มือถือ รหัสผ่าน
                        2.5
                        บริษัทอาจมีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลชนิดพิเศษของท่านตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
                        เพื่อใช้งานตามวัตถุประสงค์ที่แจ้งไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ เช่น
                        - เมื่อมีความจำเป็นต้องใช้ข้อมูลดังกล่าวเพื่อประโยชน์ในการรักษาความปลอดภัยของบริษัท เช่น ข้อมูลชีวภาพ
                        (facial recognition ลายนิ้วมือ) เพื่อใช้ในการระบุตัวตนในการเข้าถึงระบบ อุปกรณ์ หรือพื้นที่ควบคุม
                        - ข้อมูลส่วนตัวที่มีความอ่อนไหวตามที่ปรากฏในเอกสารระบุตัวตน (เช่น ศาสนา เชื้อชาติ)
                        เพื่อวัตถุประสงค์ในการพิสูจน์และยืนยันตัวตนของท่านเท่านั้น
                        โดยบริษัทไม่มีวัตถุประสงค์และนโยบายในการเก็บรวบรวม ใช้
                        หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวดังกล่าวนอกเหนือจากวัตถุประสงค์ในการพิสูจน์และยืนยันตัวตนของท่าน
                        - ข้อมูลเกี่ยวกับประวัติอาชญากรรม หรือการกระทำความผิดทางอาญา
                        หรือความเกี่ยวพันธ์กับการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพในการทำลายล้างสูงตามกฎหมาย ทั้งนี้
                        เพื่อใช้ในการพิจารณาความเหมาะสมในการปฏิบัติงานภายใต้ระเบียบของบริษัท
                        และข้อมูลการประเมินความเสี่ยงของบุคลากรก่อนรับเข้าทำงาน
                        2.6 บริษัทจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลชนิดพิเศษของท่านภายใต้ความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่านในกรณีที่จำเป็น
                        หรือเพื่อวัตถุประสงค์อื่นตามที่กฎหมายกำหนดไว้เท่านั้น
                        2.7 ในกรณีที่ท่านให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่สามแก่บริษัท เช่น ชื่อ นามสกุล รายละเอียดที่อยู่
                        และหมายเลขโทรศัพท์สำหรับการติดต่อฉุกเฉิน การยืนยันตัวตน
                        โปรดแจ้งนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ให้แก่บุคคลที่สามดังกล่าวเพื่อให้รับทราบนโยบายฯ และขอความยินยอมหากจำเป็น
                        2.8 บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับผู้เยาว์ที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ
                        เมื่อได้รับความยินยอมจากผู้ใช้อำนาจปกครอง แล้วเท่านั้น
                        เว้นแต่กรณีที่ผู้เยาว์นั้นอาจให้ความยินยอมได้โดยลำพังตามกฎหมาย ในกรณีที่ท่านมีอายุไม่ครบ 20 ปีบริบูรณ์
                        ขอให้ท่านโปรดแจ้งรายละเอียดของผู้ใช้อำนาจปกครองให้บริษัททราบเพื่อให้บริษัทสามารถดำเนินการขอความยินยอมจากผู้ใช้อำนาจปกครองก่อนการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
                        ในกรณีที่บริษัททราบว่าได้มีการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากบุคคลที่อายุต่ำกว่า 20
                        ปีโดยไม่มีความยินยอมจากผู้ปกครองตามที่กฎหมายกำหนด บริษัทจะทำการลบข้อมูลส่วนบุคคลนั้นทันที
                        หรือจะเก็บรวบรวม ใช้
                        และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเฉพาะกรณีที่มีฐานทางกฎหมายอื่นที่นอกเหนือจากความยินยอม
                        หรือตามที่กฎหมายอนุญาตไว้
                    
                
                
                    3. การเชื่อมต่อเว็บไซต์หรือบริการภายนอก
                
                
                    เว็บไซต์ของบริษัทอาจมีการเชื่อมต่อไปยังเว็บไซต์หรือบริการของบุคคลที่สาม
                        ซึ่งเว็บไซต์หรือบริการดังกล่าวอาจมีการประกาศนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่มีเนื้อหาสาระแตกต่างจากนโยบายนี้
                        บริษัทขอแนะนำให้ท่านศึกษานโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเว็บไซต์หรือบริการนั้นๆ
                        เพื่อทราบในรายละเอียดก่อนการเข้าใช้งาน ทั้งนี้
                        บริษัทไม่มีความเกี่ยวข้องและไม่มีอำนาจควบคุมถึงมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเว็บไซต์หรือบริการดังกล่าว
                        และไม่สามารถรับผิดชอบต่อเนื้อหา นโยบาย ความเสียหาย
                        หรือการกระทำอันเกิดจากเว็บไซต์หรือบริการของบุคคลที่สาม
                    
                
                
                    4. การขอความยินยอมและผลกระทบที่เป็นไปได้จากการถอนความยินยอม
                
                
                    4.1 ท่านมีอิสระอย่างเต็มที่ในการให้ความยินยอมโดยไม่สำคัญผิดในวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม การใช้
                        หรือการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยบริษัท
                        4.2 ท่านอาจจะเพิกถอนความยินยอมนั้นเสียในเวลาใดก็ได้ แต่การเพิกถอนเช่นว่านั้นจะไม่กระทบต่อการเก็บรวบรวม
                        การใช้ หรือการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมแก่บริษัทไปแล้วก่อนหน้า
                        4.3 การเพิกถอนความยินยอมของท่านอาจส่งผลให้บริษัทไม่สามารถดำเนินการตามวัตถุประสงค์บางส่วนหรือทั้งหมดได้
                        และท่านอาจได้รับกระทบจากการที่บริษัทไม่สามารถดำเนินการได้ตามวัตถุประสงค์
                        ซึ่งบริษัทจะแจ้งผลกระทบให้ท่านได้ทราบก่อนหรือในขณะเพิกถอนความยินยอม
                    
                
                
                    5. ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
                
                
                    5.1
                        บริษัทจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามประเภทข้อมูลส่วนบุคคลแต่ละประเภท
                        เว้นแต่กฎหมายจะอนุญาตให้มีระยะเวลาการเก็บรักษาที่นานขึ้น
                        ในกรณีที่ไม่สามารถระบุระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลได้ชัดเจน
                        เราจะเก็บรักษาข้อมูลไว้ตามมาตรฐานการควบคุมความปลอดภัยของข้อมูล หรือตามอายุความของกฎหมาย
                        5.2 ข้อมูลส่วนบุคคลที่จัดเก็บโดยโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV)
                        บริษัทจะเก็บรักษาไว้ตามระยะเวลาของความจุของอุปกรณ์และระบบที่มีการติดตั้ง
                        ซึ่งอาจมีคุณสมบัติในการจัดเก็บข้อมูลที่ไม่เท่ากัน แต่จะเก็บไว้ไม่น้อยกว่า 30 วัน นับแต่วันที่จัดเก็บ
                        5.3 กรณีที่มีการเพิกถอนความยินยอมในการเก็บรวบรวม การใช้ การเปิดเผยข้อมูล
                        ก่อนเวลาที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์
                        บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลไว้ตามกำหนดเวลาที่มีการเพิกถอนความยินยอม อย่างไรก็ตาม ในกรณีนี้
                        บริษัทจะทำการบันทึกประวัติการเพิกถอนความยินยอมของท่านไว้เท่าที่จำเป็นเพื่อการอ้างอิง
                        หรือเพื่อปฏิบัติต่อคำขอของท่านในอนาคต
                    
                
                
                    6. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้บุคคลอื่น
                
                
                    บริษัทจำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลที่สาม ไม่ว่าจะมีสภาพเป็นนิติบุคคล
                        หรือบุคคลธรรมดา ภายใต้ขอบเขตที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์
                        หรือการให้บริการอันเกี่ยวกับการบริหารจัดการกิจการของบริษัทเท่านั้น โดยบริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลแก่
                        6.1 บริษัทในเครือหรือกลุ่มกิจการ เพื่อดำเนินการตามวัตถุประสงค์ในการบริหารงานและกิจการของบริษัท
                        และวัตถุประสงค์ภายใต้นิติสัมพันธ์ของท่านกับบริษัท
                        โดยบริษัทจะดำเนินการประมวลผลภายใต้กรอบของข้อตกลงร่วมกัน
                        6.2 ผู้ให้บริการ ซึ่งอาจมีสถานะเป็นนิติบุคคล หรือบุคคลธรรมดา เพื่อการเก็บรวบรวม
                        หรือประมวลผลข้อมูลตามคำสั่งของบริษัท ภายใต้กรอบวัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลที่ได้กำหนดไว้ เช่น
                        ผู้ให้บริการเก็บรักษาข้อมูลคอมพิวเตอร์ (Content Service Provider) ผู้ให้บริการระบบคลาวด์ (Cloud Service
                        Provider) ผู้ให้บริการด้านวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analytics) เป็นต้น
                        โดยผู้ให้บริการจะดำเนินการประมวลผลข้อมูลภายใต้ข้อตกลงร่วมกันเพื่อการประมวลผลข้อมูล (Data Sharing / Data
                        Processing Agreement) เท่านั้น โดยจะต้องมีการจัดมาตรการรักษาความปลอดภัยข้อมูลในระดับที่เพียงพอและเหมาะสม
                        6.3 หน่วยงาน หรือบุคคลอื่นใด ที่เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด เช่น ธนาคารแห่งประเทศไทย
                        สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน บริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ สถานีตำรวจ ศาล กรมบังคับคดี
                        บริษัทบริหารสินทรัพย์ และหน่วยงานอื่นๆที่บริษัทมีหน้าที่ต้องนำส่งข้อมูลตามกฎหมาย
                    
                
                
                    7. การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปต่างประเทศ
                
                
                    7.1
                        บริษัทอาจจะต้องโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านออกนอกประเทศไทยไปยังประเทศซึ่งอาจมีมาตรฐานด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่สูงกว่าหรือต่ำกว่าประเทศไทย
                        เช่น การโอนข้อมูลไปยังบริษัทในเครือหรือกลุ่มกิจการที่อยู่ในต่างประเทศ
                        เพื่อดำเนินการตามวัตถุประสงค์ในการบริหารงานและกิจการของบริษัท
                        และวัตถุประสงค์ภายใต้ความสัมพันธ์ของท่านกับบริษัท
                        7.2
                        เมื่อมีความจำเป็นต้องโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปต่างประเทศที่มีมาตรฐานความคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ต่ำกว่าประเทศไทย
                        บริษัทจะดำเนินการให้แน่ใจว่ามีการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลให้อยู่ในระดับที่เพียงพอ
                        หรือดำเนินการให้แน่ใจว่ากฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องอนุญาตให้โอนข้อมูลส่วนบุคคลได้
                    
                
                
                    8. มาตรการความปลอดภัยสำหรับข้อมูลส่วนบุคคล
                
                
                    8.1 บริษัทให้ความสำคัญกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเป็นลำดับต้นๆ
                        โดยข้อมูลของท่านจะถูกจัดเก็บภายใต้มาตรการควบคุมความปลอดภัยของข้อมูลที่มีมาตรฐาน ไม่ว่าในรูปแบบของเอกสาร
                        ระบบคอมพิวเตอร์ และระบบอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ รวมถึงเครื่องมือต่างๆ
                        ที่บริษัทใช้เพื่อรักษาความปลอดภัยในข้อมูลส่วนบุคคล
                        รวมทั้งได้จัดให้มีหน่วยงานผู้รับผิดชอบในการบริหารจัดการและการตรวจประเมิน
                        ถึงวิธีการเก็บและสถานที่เก็บรักษา การจำกัดสิทธิการเข้าถึงข้อมูล การเข้ารหัสข้อมูล การแสดงผลข้อมูล
                        การโอนและการทำลายข้อมูล เพื่อให้เกิดความมั่นใจในมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท
                        8.2 บริษัทดำเนินการจัดให้มีโครงสร้างการกำกับดูแลข้อมูลส่วนบุคคล และการควบคุมภายในที่เกี่ยวข้อง
                        รวมถึงนโยบายการบริหารจัดการเหตุการณ์ผิดปกติที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคล
                        และแนวทางการตอบสนองต่อเหตุการณ์ผิดปกติ
                        เพื่อให้สามารถจัดการกับเหตุการณ์ผิดปกติที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลได้อย่างทันท่วงที
                        8.3 บริษัทจะดำเนินการด้วยความระมัดระวังและรัดกุม
                        เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะไม่ถูกเข้าถึงโดยบุคคลที่ไม่มีสิทธิ หรือมีการแก้ไข
                        เปลี่ยนแปลง ทำให้เสียหายหรือทำลายข้อมูลโดยบุคคลอื่น
                        8.4 บริษัทได้จัดให้มีการตรวจสอบมาตรการควบคุมความปลอดภัยของข้อมูล
                        และการประเมินความสอดคล้องกับการปฏิบัติตามกฎหมายอย่างสม่ำเสมอ
                        และจะปรับปรุงมาตรการต่างๆให้ทันสมัยพร้อมรับกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงและสามารถปรับใช้ได้อย่างเหมาะสม
                    
                
                
                    9. สิทธิเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
                
                
                    ท่านมีสิทธิดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใด หรือทุกประการ
                        เพื่อการใช้สิทธิตามกฎหมายในส่วนเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งได้ให้ไว้แก่บริษัท
                        โดยบริษัทจะดำเนินการตามคำขอของท่านภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับคำขอ ดังนี้
                        9.1 สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิเข้าถึงหรือขอสำเนาของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
                        9.2 สิทธิในการขอให้บริษัทเปิดเผยซึ่งการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
                        9.3 สิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับท่าน
                        9.4 สิทธิในการขอให้ลบ หรือระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
                        9.5 สิทธิในการเพิกถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมไว้ ทั้งนี้
                        การเพิกถอนความยินยอมย่อมไม่ส่งผลกระทบต่อการเก็บรวบรวม ใช้
                        หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้ให้ความยินยอมไว้แล้ว
                        9.6 สิทธิในการขอแก้ไข หรือปรับปรุงข้อมูลของท่านให้ถูกต้องสมบูรณ์ เป็นปัจจุบัน
                        และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
                        9.7 สิทธิในการขอให้โอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบุคคลอื่น
                        หากการดังกล่าวสามารถทำได้โดยระบบอัตโนมัติทั้งนี้ คำร้องขอใช้สิทธิใดๆ
                        ข้างต้นอาจถูกจำกัดโดยกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
                        อาจมีบางกรณีที่บริษัทสามารถปฏิเสธคำขอของท่านได้โดยสมควรและโดยชอบ เช่น กรณีบริษัทต้องปฏิบัติตามกฎหมาย
                        หรือเพื่อรักษาประโยชน์อันชอบธรรมของบริษัท
                    
                
                
                    10. ช่องทางสื่อสารและข้อมูลของบริษัท
                
                
                    ท่านสามารถขอดำเนินการตามสิทธิภายใต้กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลได้
                        โดยยื่นคำร้องเป็นหนังสือต่อคณะกรรมการความปลอดภัยของข้อมูล
                        หรือเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท ได้ตามที่อยู่ด้านล่าง หรือ แนบสำเนาคำร้องส่งอีเมลมายัง
                        info@dit.daikin.co.jp หรือโทรศัพท์สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่หมายเลข 038-469-700
                        สถานที่ติดต่อ : บริษัท ไดกิ้น อินดัสทรีส์ (ประเทศไทย) จำกัด
                        ที่อยู่ : สำนักงานใหญ่เลขที่ 700/11 นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ชลบุรี ตำบลคลองตำหรุ อำเภอเมืองชลบุรี
                        จังหวัดชลบุรี 20000
                    
                
                
                    11. การแก้ไขประกาศความเป็นส่วนตัว
                
                
                    บริษัทอาจมีการแก้ไขประกาศความเป็นส่วนตัวนี้ตามความเหมาะสม
                        และประกาศฉบับใหม่จะมีผลทันทีนับแต่วันที่ได้ประกาศอย่างเป็นทางการผ่านทางเว็บไซต์ www.daikinthai.com
                        หรือนับแต่ที่ได้แจ้งให้ท่านทราบอย่างเหมาะสมโดยวิธีการอื่นใด
                        ซึ่งบริษัทขอให้ท่านได้ตรวจสอบการประกาศของทางบริษัทเป็นครั้งคราวเพื่อประโยชน์ของท่าน
                        และการปกป้องสิทธิความเป็นส่วนตัวตามกฎหมาย